วังเวียง นี่เป็นอีกชื่อ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติต่างเดินทางมากันไม่ขาดสาย ผมเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรครับเพื่อนๆ ที่ทำให้ฝรั่งพวกนี้เดินทางมากันมากมาย แต่ที่คิดไว้แน่ๆเลยก็คือ ต้องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยน่าดูเลยว่ามั้ย และก็จริงอย่างที่คิดเอาไว้ครับ ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่นี้ถึงขนาดให้คำจำกัดความเมืองวังเวียงนี้ว่า"Paradise Lost" หรือสวรรค์ที่สูญหายไป นั่นเองครับ
เมื่อให้ความหมายกันซะขนาดนี้คงต้องไปสัมผัสกันบ้างก็คงไม่เสียหายอะไร
กิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่นั้นจะนิยมมาล่องห่วงยางหรือที่เค้าเรียกกันว่า Tubing
กันนั่นเองครับ
ที่นี่ หลายคนบอกว่า เป็นเมืองชิลเอาท์ ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นเมืองติดแม่น้ำที่ชื่อว่า แม่น้ำซอง
เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวแบ็คแพคเกอร์นิยมมา บางที่ก็มาแวะพักการเดินทาง
หลังจากเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบางแล้วนั่นเอง เพราะอยู่ระหว่างทาง
ประมาณกึ่งกลางระหว่าง หลวงพระบางและเวียงจันทน์พอดีครับ
เนื่องจากเมืองวังเวียงแห่งนี้มีแม่น้ำซองไหลผ่านตัวเมือง
มีหินปูนรายรอบ และมีถ้ำอยู่มากมายในภูเขาแห่งนี้
ทำให้เกิดกิจกรรมท่องเที่ยวกึ่งผจญภัยและเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในเมืองวังเวียงขึ้น
กิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็คือ การล่องเรือแม่น้ำซอง
ซึ่งมีทั้งเรือยนต์และเรือแพ พายเรือแคนูและเรือคายักในแม่น้ำซอง กิจกรรมไต่หน้าผาสุดเสียวสำหรับนักไต่
และการเดินทางสำรวจถ้ำ
ล่องห่วงยาง (กงเบ่ง หรือ Tubing) การผจญภัยในลำน้ำซอง การล่อง“กงเบ่ง”หรือห่วงยางให้ไหลล่องไปตามสายน้ำนั้นเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมาก
นอกจากนี้ก็ยังมี สไลดเดอร์ โหนสลิงกระโดดน้ำที่น่าตื่นเต้นอีก
ซึ่งฝรั่งจะชอบมากๆสำหรับกิจกรรมนี้ครับ
เที่ยวถ้ำจัง วังเวียง เยือน ผาตั้ง ที่วังเวียงแห่งนี้มีเขาอยู่หลายลูกครับ
มีหน้าผาที่สวยงามให้ชื่นชมกัน อย่างเช่น ผาแดง ผาฮ้อม(ผาล้อม) ผาปลวก ผานางฮั่ว
และผาตั้ง ที่อยู่นอกเมืองออกไปราว 20 กม. ผาตั้งนั้น มีสายน้ำซองไหลเลาะเลียบผ่าน
มีบ้านผาตั้ง หมู่บ้านเล็กๆตั้งแอบอิงอยู่ ซึ่งผาแห่งนี้ตามตำนานเล่าต่อกันมาว่า
พระสุธน (มโนห์รา) ใช้ง้าวฟันภูเขาเกิดเป็นผาตั้งขึ้นมา
ดังนั้นชาวบ้านจึงถือว่าเป็นผาศักดิ์สิทธิ์ ห้ามจับปลาบริเวณนั้น ทำให้ ผาตั้งกลายเป็นเขตอภัยทานตามความเชื่อนั่นเองครับ
ปั่นจักรยานชมเมืองวังเวียง ค่าเช่าจักรยานวันละ 80-100 บาท ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยครับเมื่อมาถึงที่นี่ที่เล่ามาทั้งหมดนั้นเป็นกิจกรรมหลักเท่านั้นเองครับ ที่วังเวียง ประเทศลาวแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้เพื่อนๆนักเดินทางอย่างเราๆท่านๆ ได้ออกไปสัมผัสและค้นหากัน
ในเขตตัวเมืองนั้นมีวัดเก่าที่มีอายุราวๆ
400-500 ปีอยู่หลายแห่งด้วยกันครับ ได้แก่ วัดสีเสียงทอง
หรือ วัดธาตุ วัดคัง วัดหัวพัน วัดสีสุมาน และวัดพงเพ็ญ แต่สถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวกันก็คือ
การชมถ้ำ การล่องลำน้ำ และเยือนหมู่บ้านคนท้องถิ่นครับ ถ้ำในวังเวียงเองนั้นก็มีมากมายจริงๆ
ก็อย่างที่บอกครับ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ทของลาว เพราะมีแม่น้ำไหลเลาะตามภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตา
คล้ายเมืองกุ้ยหลินของเมืองจีน
มีถ้ำให้เที่ยวชมหลายแห่ง
ที่ได้รับการพัฒนาบ้างแล้ว มีไฟนำทางในถ้ำ ไกด์ท้องถิ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนพื้นบ้านจะประจำอยู่ตามหน้าถ้ำคอยเก็บค่าผ่านทางพร้อมค่านำชมคนละประมาณ
3,000 กีบครับ ขอแนะนำว่านักท่องเที่ยวควรนำไฟฉายไปเองด้วยก็น่าจะดีครับ
ถ้ำที่เข้าชมได้ก็คือ
ถ้ำจัง เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุด ทางเข้าอยู่ในวังเวียงรีสอร์ทนั่นเองครับถ้ำผาเผือก ถ้ำนี้อยู่ไม่ไกลจากถ้ำจังเท่าไหร่นัก ปากทางเข้าถ้ำอยู่บนหน้าผา ต้องออกแรงปีนป่ายกันบ้าง ทางไปถ้ำคือข้ามสะพานไม้ไผ่ข้างๆ โรงแรมน้ำซอง แล้วเดินตัดทุ่งนาไปยังเชิงเขาก็ถึงครับ
ถ้ำพูคำ ตั้งอยู่ที่บ้านนาทอง ทางเข้าถ้ำต้องเดินผ่านป่าขึ้นไปประมาณ 200 เมตร ภายในประดิษฐานพระนอนสำริดจากประเทศไทยเรานั่นเองถ้ำผาเจ้า ตั้งอยู่หมู่บ้านขันหมากถ้ำช้าง เป็นถ้ำเล็กๆ ภายในมีพระพุทธรูปและรอบพระพุทธบาท ตั้งอยู่ที่บ้านนาดาว และ ถ้ำหอย มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าเป็นถ้ำลึกหลายกิโลเมตร
ได้เห็นภาพความสวยงามของเมืองวังเวียงแห่งนี้แล้วก็คงเถียงไม่ขึ้นครับกับคำจำกัดความที่ฝรั่งขนานนามให้
"Paradise Lost" สวรรค์ที่สูญหายไป แต่สำหรับผมแล้ว“กุ้ยหลินเมืองลาว” นี่ก็สุดๆแล้วครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก tripdeedee.com และ thetripvangvieng.com
ที่นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาเล่าสู่กันฟังครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น