บริการหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆท่านๆมักใช้กันบ่อยๆ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นบริการ รถตู้ หรือรถทัศนาจร อย่างแน่นอนครับ สำหรับเนื้อหาวันนี้จะขอพูดถึงเรื่องนี้กันหน่อยครับ
เพราะส่วนใหญ่เวลาเพื่อนๆเดินทางไปเที่ยวกันนั้น มักจะไปกันเป็นกลุ่มๆ
เป็นกรุ๊ปทัวร์ ทำให้ท่องเที่ยวสนุกสนานมากขึ้นครับ
อย่างแรกเลยพูดกันอย่างตรงไปตรงมา สำหรับบริการ รถตู้ หรือรถทัศนาจร มีข้อดีประการสำคัญก็คือ
ผู้โดยสารสามารถร่วมทำกิจกรรมสนุกสนาน ไปด้วยกันบนรถได้
โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินรายการท่องเที่ยว เพราะรถสามารถ
เข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยว หรือ แวะตามจุดต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ ต่างจาก รถโดยสาร
ประจำทาง ที่ต้องออกรถตามเวลา และ ต้องหยุดรถ ตามจุดหยุดรถที่กำหนดไว้เท่านั้น
ฟังดูแล้วเหมือนไม่มีอะไร แต่เรากลับจะได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับ
รถทัวร์ รถตู้นำเที่ยว ที่ขับตกเขาบ้างล่ะ ชนประสานงาบ้างล่ะ
อุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากความประมาทของคนขับรถทั้งนั้น การเลือกบริการเช่ารถทัศนาจรจึงเป็นเรื่องที่เพื่อนๆควรหันมาตระหนักให้มากขึ้น
ป้องกันการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
คงไม่มีใครหรอกครับที่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นระหว่างการท่องเที่ยว
เพื่อให้ง่ายสำหรับการเดินทางของเพื่อนๆ
ก็เลยขอแนะนำการเลือกใช้บริการรถเช่าทัศนาจรกันหน่อย
ว่ามีวิธีการพิจารณาอย่างไร ?
อย่างแรกเลยที่อยากให้เพื่อนๆดูเลยก็คือ การให้บริการของรถตู้รับจ้างนั้น
ดูจากการดูข้อมูลย้อนหลังถึงปัจจุบันว่ามีบริการเป็นอย่างไร
มีประวัติเสียหายอะไรไหม ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เพื่อนๆสามารถตรวจสอบได้จาก
เพื่อนฝูงที่เคยใช้บริการมาแล้ว หรือจากการบอกเล่า หรืออาจจะตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังจนถึงปัจจุบันจากสื่อมวลชนหรือหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการขนส่งทางบก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ดูว่ารถเช่ามีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ให้กับผู้โดยสารนอกเหนือจาก
พ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ประสบภัยจากรถหรือไม่
ตัวรถต้องถูกกฎหมายและมีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ควรจะได้เห็นตัวรถก่อนที่จะเช่าหรือว่าจ้าง
และถ้าเป็นไปได้ให้ขอทะเบียนรถคันนั้นเพื่อนำไปตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบกก่อนก็ได้ จะได้ทราบในเบื้องต้นว่ารถคันนั้นจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ขาดต่อภาษีรถประจำปีหรือไม่
คุณสมบัติของคนขับรถล่ะ ก่อนที่จะทำการว่าจ้างเพื่อนๆ ควรขอตรวจสอบใบอนุญาตขับรถของคนขับ
ซึ่งการดูใบอนุญาตขับรถนั้นจะดูว่า เป็นใบอนุญาตขับรถประเภทไหน
ถ้าขับรถบัสไม่ว่าจะเป็นรถบัสชั้นเดี่ยวหรือ 2 ชั้น
ที่สามารถจุคนตั้งแต่ 20 คนขึ้นไปต้องเป็นใบอนุญาตขับรถประเภทที่ 2,3
และ
4 เท่านั้นส่วนในกรณีของรถตู้คนขับสามารถมีใบอนุญาตขับรถได้ตั้งแต่ประเภทที่
1 ถึง 4
เมื่อรถพร้อม คนขับพร้อม ตรวจสอบดีแล้ว ต่อไปเป็นแผนการเดินทาง ซึ่งแผนการเดินทางท่องเที่ยวจะต้องไม่แน่นจนเกินไปครับ
ถ้าเดินทางกับทัวร์ที่จัดท่องเที่ยวก็ต้องดูตารางการเดินทางว่าในแต่ละสถานที่นั้นเหมาะสมกับระยะทางและระยะเวลาที่วิ่งรถหรือไม่
เดินทางกลางวันหรือกลางคืน มีการกำหนดสถานที่และระยะเวลาให้คนขับได้หยุดพักรถและผ่อนคลายอิริยาบถมากน้อยเพียงใด
การเดินทางในเวลากลางวันจะปลอดภัยกว่าเวลากลางคืน หากใช้ระยะเวลาขับรถเกิน 4 ชั่วโมง
ควรหยุดพักอย่างน้อย 30 นาทีซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย
ตลอดระยะเวลาเดินทาง มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
ผู้โดยสารควรให้ความใส่ใจ ดู และ คอยหมั่นสังเกตการณ์การทำงานของรถ
ความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนขับ ไม่ควรเร่ง
ให้ขับรถเร็วเพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทางทันเวลา ดูแลให้คนขับรถนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่จะได้ไม่ง่วงถึงขั้นหลับใน และ
ในขณะขับรถให้หมั่นสังเกตอาการของคนขับด้วย หากเห็นว่าอ่อนล้าหรือ มีอาการง่วง
ให้เปลี่ยนคนขับหรือ ให้หยุดพักผ่อนในจุดพักรถที่ปลอดภัย อย่าชักชวนคนขับดื่มเหล้า
อย่าเกรงใจหากคนขับ ขับรถฝ่าฝืนกฎหมาย หรือ ขับรถประมาณเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ต้องบอกกล่าวตักเตือนขอความร่วมมือให้ขับรถดี ๆ
เพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนรถ ตลอดระยะเวลาการเดินทางครับ
ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความไม่ประมาทของทั้งสองฝ่ายครับ
พบเห็นรถโดยสารไม่ปลอดภัย โทรแจ้ง 1584
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น