ปราสาทวัดพู มรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว
เที่ยวลาวในวันนี้
เราพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่หาดูได้ยากอีกหนึ่งแห่งของลาวครับ
หรือจะบอกว่าเป็นมรดกโลกอีกแห่งของลาวใต้เลยก็ว่าได้ครับ
จุดหมายปลายทางของการเดินทางในครั้งนี้อยู่ที่ “ปราสาทวัดพู” เมืองจำปาสักครับ
ปราสาทวัดพู ถือเป็นโบราณสถานในประเทศลาว ซึ่งเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว ตั้งอยู่บนเนินเขาภู
หรือเรียกกันว่าภูควาย ห่างจากตัวเมืองเก่าจำปาสักประมาณ 6 กิโลเมตร
ซึ่งได้รับการรับรอง และขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ว่าเป็นสถานที่เมืองมรดกโลก
ในอดีตที่ตั้งของวัดพู นั้นเคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแห่งอารยธรรมโบราณถึง
3 สมัยด้วยกันนั่นเองครับ คือ อาณาจักรเจนละในช่วงศตวรรษที่ 6 –
8 ค้นพบจารึกกล่าวถึงการฆ่าคนเพื่อบูชาแด่เทพเจ้า
ต่อมาเป็นยุคของอาณาจักรขอมสมัยก่อนเมืองพระนคร
ที่เลือกบริเวณนี้เป็นที่สร้างปราสาทหินในราวศตวรรษที่ 9 และสุดท้ายอาณาจักรล้านช้างได้เปลี่ยนเทวาลัยในศาสนาฮินดูให้เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายเถรวาทนั่นเองครับ
เมื่อย่างเท้าเข้าสู่บริเวณของปราสาท สิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นก็คือภูเขาด้านหลังปราสาทที่ตั้งเด่นตระหง่านมองเห็นแต่ไกล
รูปร่างคล้ายนมของผู้หญิงและคนเกล้ามวยผม
ซึ่งเป็นที่มาของชื่อภูผาแห่งนี้ว่าเขานมสาว นั่นเองครับ แต่ชาวบ้านนิยมเรียกภูเกล้ามากกว่า
อาณาเขตของปราสาทวัดภู
เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้นรถหลั่นกันขึ้นมา 3 ชั้น
จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุด นอกเขตวัดมีบารายขนาดใหญ่
ซึ่งในสมัยโบราณใช้เป็นที่แข่งเรือและที่สรงน้ำสำหรับพิธีกรรมต่างๆนั่นเอง
ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างในราวพุทธศตวรรษที่
12 ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งครับ
ส่วนไฮไลท์ของการท่องเที่ยวปราสาทวัดพูแห่งนี้อยูที่ งานประเพณีประจำปีที่เรียกว่า
"งานประจำปีวัดภู" นั่นเองครับสำหรับงานบุญประเพณีของวัดพูเป็นเทศกาลที่โด่งดัง
และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ทั้งจากในและต่างประเทศ
โดยจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งจะจัดติดต่อกัน 3 วัน โดยประชาชนชาวลาวจากทั่วทุกแขวงจะเดินทางนำสิ่งของมาบวงสรวงบูชาตามจุดต่างๆ
ในบริเวณองค์ประธาน สำหรับในวันสุดท้ายจะมีพระสงฆ์ออกมาบิณฑบาต
พอตกค่ำจะมีพิธีเวียนเทียนไปรอบๆปรางค์ประธานนั่นเองครับ
ถือว่าเป็นอีหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวด้านมรดกทางวัฒนธรรมที่หาดูได้ยากอีกแห่งครับ
ขอบคุณข้อมูลการท่องเที่ยวจาก hotsia.com ครับ
0 ความคิดเห็น: