ตำนานรัก แห่งจำปาสัก หนึ่งหญิงสองชาย ต่างเผ่าพันธุ์ ก่อบาปรักเลือด ผูกพัน ข้ามภพ (The Legend of Vat Phou)
หนึ่งในสถานที่สำคัญทางการท่องเที่ยวที่คนไทยคุ้นเคยกันดีคือ ปราสาทวัดพู
โบราณสถานในแขวงจำปาสัก ประเทศลาว ที่รวมความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนมาแต่โบราณกาล ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดม
และสมบูรณ์ไปด้วยประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในเอเซีย นับได้ว่ามรดกโลกวัดพู
เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากนักท่องเที่ยวของแขวงจำปาสัก
เรื่องราวปรัมปราในประวัติศาสตร์ของตำนานรักสามเศร้า
กลายเป็นที่มาของงานแสดงอันยิ่งใหญ่อลังการแสงสีเสียงบนปราสาทหินวัดพู ในนาม “เดอะ เลเจนด์ออฟ วัดพู” (The Legend of Vat Phou) เทศกาลงานบุญที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 3 หรือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์
เรื่องราวรักสามเส้า หนึ่งหญิงสองชาย ต่างเผ่าพันธุ์ ที่ก่อบาปรักเลือด ผูกพัน ข้ามภพ " ท้าวบาเจียง นางมะโรง และท้าวจัมปาสัก "
ตำนานเรื่องเล่าปรัมปราของตำนานรัก
3
ยุค
เริ่มตั้งแต่ยุคสมัยของท้าวบาเจียง
...ท้าวบาเจียง
บุตรชายหัวหน้าบ้านชาวเผ่า
หลงรักนางมะโรง
ซึ่งเป็นสาวสวยธิดาเศรษฐีชาวลาวลุ่มผู้หนึ่ง
หากบิดาของนางเมามัวในทรัพย์สมบัติ
และได้ตกลงใจมอบหมายนางให้
ท้าวจัมปาสัก
บุตรชายของเจ้าเมืองลาวลุ่มอีกเมืองหนึ่งไปแล้ว
ดังนั้นในวันที่ท้าวบาเจียงจัดขบวนขันหมากของชาวเผ่าไปสู่ขอ
ท้าวบาเจียงจึงถูกหักหน้าอย่างร้ายกาจ
ด้วยความคับแค้นและอับอาย
ท้าวบาเจียงจึงสาปแช่งให้ความรักของนางมะโรงและท้าวจำปาสักเป็นความรักที่ทุกข์ทรมาน
แล้วท้าวบาเจียงจึงโดดหน้าผาลงไปตาย
และเมื่อนางมะโรงได้อยู่กินกับท้าวจัมปาสัก
รักของคนทั้งสองจึงเป็นความรักที่เปี่ยมทุกข์
ในที่สุดนางมะโรงก็ไม่อาจทนอยู่ต่อไปได้
จึงไปโดดหน้าผาตรงที่ท้าวบาเจียงโดดหน้าผาตายไปก่อนหน้า
….. และในค่ำคืนวันเพ็ญที่จันทร์แจ่มกระจ่างฟ้า
ณ
เศรษฐปุระนคร เมืองเอกแห่งแว่นแคว้นเล็กๆนามเจนละ
ริมฝั่งแม่น้ำโขง
อีกหลายร้อยปีต่อมา จิตรเสน อนุชาต่างมารดาของกษัตริย์ผู้มีสถานะเป็นจอมทัพแห่งเศรษฐปุระ
ได้นัดพบกับนางชยันธร
บุตรสาวแสนสวย ของมหาปุโรหิตย์ ที่จะเป็นราชินีของเมืองนี้คนต่อไป
เพื่อลานางไปในการศึกกับฟูนัน
เมืองทางปลายแม่น้ำโขง
หากในเงามืดนั้นกษัตริย์ภววรมันได้ซุ่มดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่
และได้ตัดสินใจอะไรบางอย่าง
วันต่อมา
นางชยันธร
ในฐานะคู่รักของกษัตริย์ ก็มาส่งขบวนทัพเจนละเข้าโจมตีฟูนัน
และทำให้ฟูนันอ่อนแอลงจนไม่สามารถล่องแม่น้ำโขงเข้ามาทำอะไรเจนละอีกต่อไป
แต่เจนละ
ที่ตั้งอยู่ลึกเข้ามาภายในแผ่นดินก็ไม่สามารถออกสู่ทะเลเปิดเพื่อไปค้าขายกับจีนได้ ดังนั้นเพื่อออกไปให้พ้นเส้นทางรักสามเส้า
และหลุดพ้นไปจากคำครหาว่าจะเป็นกบฏชิงอำนาจพี่ชาย จิตรเสนจึงตัดสินใจ อาสายกกองทัพเรือเจนละ ออกไปสำรวจเส้นทางแม่น้ำมูลเพื่อหาทางออกทะเล
หากสำหรับกษัตริย์ภววรมันพี่ชายเพื่อตอบแทนความดีของจิตรเสนผู้น้อง
และเพื่อแสดงให้จิตรเสนเห็นว่าพระองค์มิได้ไยดีในความรักต่อนางชยันธร
พระองค์จึงตัดสินใจส่งขบวนทัพเรือสำรวจแม่น้ำมูลของจิตรเสน
ด้วยประเพณีอันยิ่งใหญ่คือการจัดการบูชายัญมนุษย์ขอพรต่อองค์พระศิวะ
โดยผู้ที่พระองค์คัดเลือกให้เป็นหญิงบริสุทธ์ที่จะถูกบูชายัญนั้นก็คือ
นางชยันธร
นั้นเอง
…. ในอีกหลายร้อยปีต่อมา
ราชครูหลวงยอดแก้วโพนสะเม็ก
หรือ
ยาคูขี้หอม นำเจ้าชายแห่งราชวงศ์ล้านช้างแห่งเวียงจันทน์หนีภัยคุกคามจากการแย่งชิงราชสมบัติมุ่งหน้าลงใต้
เมื่อมาถึงดินแดนจัมปาสัก
ซึ่งในขณะนั้นมี
นางแพง เป็นเจ้าเมืองชาวชนเผ่าเป็นผู้หญิงครอบครองเมืองอยู่
ในคราวนั้นผู้คนของราชครูหลวงและเจ้าเมืองหญิงคู่คี่ก้ำกึ่งกัน
ราชครูหลวงได้เอ่ยปากหว่านล้อมให้เจ้าเมืองหญิงมอบอำนาจการปกครองให้กับเจ้าชายราชวงศ์ล้านช้าง
เจ้าเมืองหญิงตั้งคำถามขึ้นว่า
เหตุใดตนจึงต้องยกเมืองจัมปาสักให้กับเจ้าชายแห่งล้านช้าง
ราชครูหลวง
จึงสำแดงให้เจ้าเมืองหญิงมองเห็นอดีตชาติที่เจ้าเมืองเคยเกิดเป็นนางมะโรง
และนางชยันธร
ซึ่งมีบาปเคราะห์ผูกพันมากับสองชายจนถึงวันนี้
หากพระนางยินดีถวายเมืองให้กับเจ้าชายแห่งล้านช้าง
บาปเคราะห์ต่างๆที่ดำเนินมาร่วมกันหลายร้อยปีก็จะสิ้นสุด
และพระนางจงออกถือเพศบรรพชิตบำเพ็ญภาวนาเพื่อความสงบสุขของตนเองในชาติภพหน้าสืบไป ดังนั้นเจ้าเมืองหญิงจึงตกลงใจมอบเมืองจัมปาสักให้กับเจ้าชายแห่งล้านช้าง
ที่มา
: oknation.net
|
นี่เป็นช่วงจังหวะแห่งการท่องเที่ยวลาวใต้มากที่สุดครับ ถือเป็นการชมความงามของมรดกโลกแห่งที่สองของลาวเลยก็ว่าได้ เศษซากอารยธรรมที่หลงเหลือของแหล่งโบราณสถานอันยิ่งใหญ่
ต่างเป็นหลักฐานประกอบเรื่องเล่าปรัมปราเหล่านั้นได้อย่างดีเยี่ยม
ทั้งหมดนี้ถือเป็นความสุขที่ทำให้การเดินทางชื่นชมความงดงามของ “โบราณสถานวัดพูพร้อมพื้นที่วัฒนธรรม จำปาสัก” แหล่งมรดกโลก ได้มีเรื่องเล่าที่น่าประทับใจ
0 ความคิดเห็น: