น้ำตกตาดฟาน (Tad Fane ) น้ำตกคู่แฝดกลางหุบเขาลึก ลาวใต้




การเดินทางท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศลาวนั้น  ถือเป็นการเดินทางที่ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดครับ  เพราะถึงจะคุยกันคนล่ะภาษาแต่ด้วยตัวภาษาที่มีความคล้ายคลึงกับภาษาอีสานนั้นก็ทำให้การเดินทางไม่สะดุดครับ

การเดินทางเที่ยวลาวในครั้งนี้  เรานำเพื่อนลงสู่ลาวใต้กันครับ  หลังจากที่เราเคยแนะนำเพื่อนๆนักเที่ยวให้เดินทางไปเที่ยวที่น้ำตกผาส้วม  สถานที่ที่เราจะแนะนำเพื่อนในครั้งนี้เป็นเหมือนแพ็กเก็ตการเดินทางมาลาวใต้ก็ว่าได้ครับ


สถานที่ท่องเที่ยวลาวใต้ที่ว่านี้ก็คือ  น้ำตกตาดฟาน  นั่นเองครับ   ก่อนที่เราจะเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง  เราขอทำความรู้จักกับน้ำตกแห่งนี้กันก่อนดีกว่าครับ

น้ำตกตาดฟาน แห่งนี้เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในแขวงจำปาสักเลยก็ว่าได้ครับ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกดงหัวสาว (ซึ่งคำว่า ฟาน แปลว่า เก้ง)  จุดเด่นอยู่ตรงสายน้ำ 2 สายนี่แหละครับ ที่ไหลลงจากหน้าผาสูงราว 120 เมตร โดยสายน้ำทางซ้ายมือไหลมาจากห้วยผักกูด และทางขวามือเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติดงหัวสาว

สำหรับการเข้าไปชมน้ำตกนั้น จุดชมวิวจะตั้งอยู่คนละฟากหุบเขากับตัวน้ำตกครับ ซึ่งจะอยู่ในระดับความสูงที่เท่าๆ กัน จากตรงนี้เราสามารถชมวิวมองน้ำตกในมุมสูงได้อย่างชัดเจนเลยครับ สำหรับที่นี่ในยามเช้ายังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามอีกต่างหากครับ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแห่งนี้  ก็สามารถเดินลงไปชมตัวน้ำตกได้ที่บริเวณด้านล่างครับ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จากจุดชมวิวด้านบนครับ ก็ใช้เวลาเดินเท้าค่อนข้างนานพอสมควรครับ แนะนำว่าต้องเตรียมอาหารและอุปกรณ์กางเต็นท์ไปเองก็ดีนะครับ เพื่อพักแรมบริเวณด้านล่าง 1 คืน และเดินกลับขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ... (สำหรับเพื่อนๆที่ชอบความท้าทายครับ)

อ๋อ..เกือบลืมไปครับ จุดชมวิวที่นี่เป็นพื้นที่ของเอกชนครับ ต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าชมด้วยครับ อัตราค่าธรรมเนียมเข้าชม 5,000 กลีบ(ลาว) หรือประมาณ 20 บาท (ไทย) ต่อคน  นั่นเองครับ





ภายในบริเวณใกล้เคียงก็มี  ตาดฟานรีสอร์ท  ให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดติดขอบน้ำตกตาดฟาน สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการพักผ่อน ใกล้ชิดธรรมชาติครับ

เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งของลาวใต้ครับ ถึงแม้ว่าน้ำตกจะไม่ได้น่าเล่น แต่ดูน่ากลัวมากกว่า  แต่นี่ก็เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้เราได้ชมกันครับ

การเดินทาง  ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 23  เส้นทางไปปากซอง  มาถึงหลักกิโลเมตรที่ 38 มีทางแยกเข้าขวามือครับ


...............

1 ความคิดเห็น:

วัดพระธาตุตากผ้าทอง เมืองลาว ความอัศจรรย์ที่หาคำตอบไม่ได้



เที่ยวลาวในวันนี้  เรายังอยู่ที่เดิมครับ  บ่อแก้ว-ห้วยทราย ที่ยังอยู่ที่นี่ ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะยังมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวลาวที่เรายังไม่ได้ไปนั่นเองครับ แต่ถ้าเราจะผ่านเรื่องนี้ไป ก็เห็นจะไม่ได้  นั่นก็เพราะเสียงเล่าลือต่อๆกันมานี่แหละครับ  จะเป็นเสียงลืออะไรนั้น เดี๋ยวเพื่อนก็ได้ทราบครับ

บ่อแก้ว-ห้วยทรายแห่งนี้  มีสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวได้เที่ยวชมกัน  เช่น วัดจอมแก้วมณีรัตน์  ตลาดเมืองบ่แก้ว ทั้งสองแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่นั่นเองครับ และอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง ที่นักเที่ยวจะไม่พลาดเลยนั่นก็คือ  “วัดพระธาตุตากผ้าทอง”  นั่นเองครับ

ก็ที่วัดพระธาตุตากผ้าทองนี่แหละครับที่เป็นที่มาของเสียงเล่าลือ  แต่จะเล่าลืออะไรนั้น จะได้รู้กันเดี๋ยวนี้แหละครับ


วัดพระธาตุตากผ้าทองที่ชาวบ้านเล่าว่ากันนักกันหนา ทุกๆ วันขึ้น 15 ค่ำ จะมีแสงพวยพุ่งออกมาจากองค์พระธาตุ เป็นอีกหนึ่งความอัศจรรย์ที่หาคำตอบไม่ได้ครับ ไหนๆก็มาที่นี่แล้ว เราก็เลยแนะนำเพื่อนๆนักเที่ยวให้ลองไปชมครับ ไปหาคำตอบกัน



วัดพระธาตุตากผ้าทอง  นั้นตั้งอยู่บนเนินเขาที่สูง 200 เมตร ห่างจากท่าเรือท่าด่านประมาณ 3 กิโลเมตรครับ ทางขึ้นวัดอยู่ห่างจากท่าเรือเร็วของลาวประมาณ 100 เมตร

ภายในบริเวณวัดนั้นมีพระอุโบสถขนาดกลาง เป็นศิลปกรรมแบบลาวโดยแท้ ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ ใกล้ๆกับพระอุโบสถนั้นมีพระธาตุตั้งอยู่หันหน้ามาทางฝั่งไทยเรา ชาวลาวเล่าว่าทุกๆวันขึ้น 15 ค่ำ จะมีแสงสีต่างๆพวยพุ่งขึ้นมาจากองค์พระธาตุ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากฝั่งไทยนั่นเองครับ ส่วนที่มาของแสงนั้นไม่มีใครทราบครับ

แต่ถึงจะไม่ทราบที่มา เชื่อเลยว่าสถานที่แห่งนี้ต้องมีความศักดิ์ และความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นที่นี่ก็ดูเหมือนจะหาคำตอบไม่ได้ซะด้วยครับ


นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้ว รอบๆ ตัวเมืองก็ยังมีวิถีชีวิตของชาวบ้านเผ่าต่างๆ ให้ชมกันอีกด้วย ใช้เวลาประมาณครึ่งวันก็สามารถเที่ยวได้ครบแล้วครับ ลองไปเที่ยวที่นี่กันดูครับ 




0 ความคิดเห็น:

วัดจอมแก้วมณีรัตน์ : บ่อแก้ว-ห้วยทราย



แขวงบ่อแก้ว-ห้วยทราย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายที่รอให้เรานั้นได้ไปสัมผัส การเดินทางเที่ยวลาวในครั้งนี้  ถ้าเพื่อนๆ นักเดินทางคนไหนที่เดินทางมาเที่ยวลาว  ยังไงซะ...ก็คงอยากเที่ยวให้ครบทุกที่ ใช่ๆไหมล่ะครับ ..?  สำหรับการแขวงบ่แก้ว-ห้วยทรายนี้  เมื่อเดินทางมาที่นี้ก็คงเห็นจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ  นอกจากเราจะได้ไปเดินตลาดเมืองบ่แก้วแล้ว  ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งที่ที่รอเพื่อนๆอยู่ สถานที่ท่องเที่ยสำหรับแขวงนี้เราขอแนะนำที่เที่ยวเอาบุญที่ “วัดจอมแก้วมณีรัตน์”  นั่นเองครับ

อ๋อ..ผมลืมไปครับ  ก่อนที่เราจะไปที่วัด  ผมอยากเล่าเรื่องราวความเป็นมาของที่แขวงนี้กันสักหน่อย  ไหนๆมาเที่ยวทั้งที  ไม่ได้แค่มาเที่ยวเฉยๆแถมได้รู้ความเป็นมาของที่นี่กันด้วย ถือว่าการท่องเที่ยวนี้สำบูรณ์แบบครับ

แขวงบ่อแก้ว เป็นแขวงที่มีขนาดเล็กสุดของประเทศลาว มีพรมแดนติดกับประเทศไทย ประเทศพม่าครับ  เดิมบริเวณนี้เรียกว่า หัวโขง เพราะตั้งอยู่ต้นแม่น้ำโขงครับ แต่ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นบ่อแก้ว มีห้วยทรายเป็นเมืองหลวงนั่นเองครับ เป็นเมืองท่าการค้าที่ใหญ่ที่สุดริมแม่น้ำโขง สมัยฝรั่งเศสเข้ามาปกครองลาวนั่นเอง

ส่วนวัดจอมแก้วมณีรัตน์ นั้นเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองครับ  ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองหันหน้าสู่แม่น้ำ  สูงประมาณ 100 เมตรเห็นจะได้ครับ เป็นวัดอยู่บนเขาสูง มองเห็นวิวของเมืองห้วยทรายและฝั่งเชียงของของประเทศไทยได้ด้วย วัดนี้ตั้งอยู่ตรงท่าข้าม ที่จะข้ามไปยังท่าเรือบั๊กของไทยเรานั่นเอง  

ภายในบริเวณวัดมีพระอุโบสถขนาดกลางสร้างด้วยไม้สัก เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่ ฝาผนังโดยรอบของพระอุโบสถมีภาพเขียนสีน้ำมัน ลักษณะเป็นศิลปกรรมแบบลาวมีสีสันที่สวยงามมากครับ ส่วนที่หอระฆังมีระฆังและกลองขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนยอดสูงสุดของหอระฆัง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของฝั่งไทยและท่าเรือบั๊คได้อย่างชัดเจนครับ






วัดจอมเขามณีรัตน์ จะมีทั้งบันไดเดินขึ้นหลายร้อยขั้นครับ แต่รถก็สามารถขึ้นไปได้ด้วย ชาวห้วยทรายเองก็จะไปทำบุญและตักบาตรข้าวเหนียวกันที่วัดนี้ทุกวันพระครับ ถ้าลองสังเกตดูวัดในประเทศลาวนั้นจะมีพญานาคที่หลังคาวัดแทนที่จะเป็นหงส์เหมือนวัดของประเทศพม่า วัดของลาวเหมือนทางวัดทางวัดทางเหนือของไทยเราที่จะไม่มีเมรุเผ่าศพอยู่ในวัดนั่นเองครับ และที่เห็นแปลกตาอีกอย่างของการทำบุญที่วัดจอมเขามณีรัตน์แห่งนี้ ก็คือ เมื่อเขาตักบาตรเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านก็จะเอาข้าวเหนียวไปป้อนให้ปากพญานาค และก็ขออะไรสักอย่างหนึ่ง...? 










หลังจากใส่ข้าวที่ปากพญานาคเสร็จแล้ว ก็จะขึ้นไปฟังพระสวดบนศาลา คงเป็นประเพณีอย่างหนึ่ง หากเพื่อนๆได้เดินทางไป  ก็ลองศึกษาตรงนี้ดูละกันนะครับ

ที่ห้วยทรายแห่งนี้อากาศเย็นสบายเกือบทั้งปีครับ  ด้วยความที่อยู่สูงกว่าหลวงพระบางนั่นเอง เมื่อเพื่อนๆมีโอกาสได้เดินทางมายังเชียงของ ก็อยากให้ลองข้ามท่าเรื่อบั๊กมาเที่ยวที่นี่ดู  เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากแนะนำกันอีกที่ครับสำหรับการเดินทางมาเที่ยวลาว



อีกซักหน่อยครับก็อีกสถานที่ท่องเที่ยวของที่เมืองนี้ “วัดพระธาตุตากผ้าทอง” ที่ ชาวบ้านเล่าลือกันว่า ทุกๆ วันขึ้น 15 ค่ำ จะมีแสงพวยพุ่งออกมาจากองค์พระธาตุ ด้วยความน่าสนใจของที่นี้และเสียงเล่าลือเสียงเล่าอ้าง สถานที่ต่อไปก็เห็นจะเป็นที่นี่แหละครับ 


แต่สำหรับวันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนครับ ก็คงได้แค่บอกว่า ..โปรดติดตามตอนต่อไปก็แล้วกันครับ... สบายดี


0 ความคิดเห็น:

ชมหัวรถจักรโบราณฝรั่งเศษ : ลาวใต้



สบายดีครับ...

หลังจากที่การเดินทางท่องเที่ยวลาวที่น่าตื่นเต้นที่เรานำเสนอไปในหลายๆบทความนั้น  แต่สถานที่ท่องเที่ยวในลาวนั้นก็ยังมีอีกมากมายให้เรานั้นได้เยี่ยมเยือน  และอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของลาวอีกหนึ่งที่นั้น  เป็นเส้นทางเดียวกันกับการเดินทางไปเยือนน้ำตกคอนพะเพ็งหรือที่ใครๆเรียกกันว่า  ไนแองการ่าแห่งเอเชียนั่นเอง   และเมื่อเราได้แวะชม  แก่งหลีผีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวลาวใต้ที่น่าสนใจแล้ว  จุดหมายปลายทางของเรานั้น อยู่ที่  “ หัวรถจักรโบราณ แขวงจำปาสัก นั่นเองครับ  เป็นการเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกเลยก็ว่าได้ครับ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่หาชมได้ยากมากครับสำหรับยุคสมัยนี้


หัวรถจักรโบราณ” นั้น ถูกสร้างขึ้นในช่วงฝรั่งเศสเข้ามาครอบครองลาวนั่นเองครับ เป็นรถจักรไอน้ำ ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำการขนส่งสินค้าในช่วงนั้นนั่นเองครับ ปัจจุบันหัวรถจักรโบราณนั้นตั้งอยู่ระหว่างทางการเดินทางไปเที่ยวชมน้ำตกหลี่ผี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเก็บรูปหัวรถจักรโบราณนี้นั่นเองครับ

ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมไม่ต่างจากเหล่าน้ำตกที่ทั้งสวยทั้งน่ากลัวที่เราได้แนะนำไปนั่นเองครับ

สำหรับท่านที่จะเดินทางมาชมหัวรถจักรโบราณนั้น ใช้เส้นทางหมายเลข 13 ครับ ให้เลี้ยวตรงหลักกม.ที่ 8 เพื่อไปทางน้ำตกคอนพะเพ็ง-หลี่ผี นั่นเองครับ ถนนเป็นถนนลาดยางตลอดครับ ไม่ต้องห่วง ขับตรงมาตรงประมาณหลัก กม.ที่ 147 จะมีป้ายบอกไปดอนโขง ให้เลี้ยวขวานครับ





จากนั้นขับมาให้สุดทางจะเป็นทางลูกรังประมาณอีก 3 กม. เส้นทางนี้จะลำบากหน่อยครับ ขับมาจะถึงท่าเรือบ้านนากะสัง ท่านสามารถลงเรือข้ามฟากเพื่อไปดอนคอน - ดอนเดช ค่าเรื่องก็ประมาณคนละ 15,000 กลีบ ไป-กลับ ครับ จากนั้นนั่งรถเช่า (คนละประมาณ 15,000 กลีบ ไป-กลับ)เป็นรถหกล้อ นั่งไปอีกประมาณ 1 กม. อยู่ระหว่างทางการไปชมน้ำตกหลี่ผีนั่นเองครับ







เมื่อเพื่อนๆนักเที่ยวได้เดินทางมาลาวใต้แห่งนี้  นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวลาวที่เราอยากแนะนำกันในวันนี้นั้นเองครับ  ไหนๆก็มาแล้วอย่าพลาดที่จะไปชมกันนะครับ.......สบายดี....



0 ความคิดเห็น:

น้ำตกหลี่ผี มหานทีสี่พันดอน



เมื่อเพื่อนเดินทางมาถึงลาวใต้แล้ว  ก็คงหนีไม่พ้น การเดินทางท่องเที่ยวแบบผจญภัยอย่างแน่นอนครับ ถ้าเกิดใครได้มาทัวร์ลาวใต้ การเที่ยวชมน้ำตกเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดครับ หลังจากที่แนะนำ ไนแองการ่าแห่งเอเชียไปแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่ยอดฮิตในลาวใต้นี้ยังมีอีกเพียบครับ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะแนะนำกันในวันนี้นั้น เป็นน้ำตกเช่นเคยครับ “น้ำตกหลี่ผี ” นั่นเองครับ  ฟังจากชื่อแล้ว ไม่น่าไปเลยใช่ไหมครับ คงมีผีเยอะน่าดู

แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ  ถ้าน่ากลัวขนาดนั้นคงไม่จัดให้เป็นสถานที่ยอดฮิตหรอกครับ ถ้าเพื่อนๆที่ต้องการเดินทางไปลาวใต้ แล้วเที่ยว น้ำตกหลี่ผีแห่งนี้  เรามาฟังเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้กันก่อน เป็นข้อมูลก่อนการเดินทางครับ

น้ำตกหลี่ผี (ตาดสมพะมิด)    น้ำตกหลี่ผีแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตดอนคอนครับ    ช่วงที่เหมาะสมแก่การเที่ยวชมคือเดือน ตุลาคม พฤศจิกายนนั่นเองครับ   เพราะเพื่อนๆจะเห็นสายน้ำจำนวนมาก ในแก่งหลี่ผีที่ไหลถาโถมผ่านเนินหินโขดหินลงมาด้วยกำลังแรงแตกเป็นละอองสีขาวไปทั่วแก่งดูสวยงามตื่นตามากครับ

     หลี่  เป็นภาษาลาวครับ  หมายถึง  เครื่องมือจับปลาชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายลอบ  ส่วนคำว่า ผี  หมายถึงศพคนตายนั่นเองครับ   ซึ่งบริเวณน้ำตกหลี่ผีแห่งนี้จะมีกระแสน้ำไหลบ่าตามพื้นที่ราบ ผ่านแผ่นหิน  แล้วไหลตกลงมาตรงช่องซอกเขาที่แตกแยกออกจากันนั่นเอง
 
กระแสน้ำสีเขียวเข้มในหน้าแล้งหรือสีชาในฤดูฝนนั้นจะไหลบ่าตกลงมาเบื้องล่าง  จากนั้นจึงไหลไปตามรอยแยกของซอกเขาเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร   ส่วนจุดที่พบศพจำนวนมากนั้น คือ บริเวณร่องหินของน้ำตกหลี่ผีนั่นเองครับ  บริเวณนี้กระแสน้ำจะไหลมารวมตัวกัน กลายเป็นแอ่งขนาดใหญ่  จากนั้นน้ำจะวนไปมาแล้วจึงไหลตกลงไปด้านล่างซอกหลืบหินแคบๆ  ทำให้ศพของทหารในสมัยสงครามอินโดจีนจำนวนมากลอยมาติดในหลี่จับปลานั่นเองครับ  ชาวลาวจึงเรียกน้ำตกแห่งนี้ว่า  หลี่ผี




สำหรับการเดินทางไปแก่งหลี่ผีนั้น แก่งหลี่ผีจะอยู่ใกล้กับน้ำตกคอนพะเพ็งครับ เพียงแต่ต้องนั่งเรือหางยาวจากบ้านนากะสัง ลัดเลาะแม่น้ำโขงสู่บ้านดอนคอนนั่นเองครับ จากนั้นเดินผ่านหมู่บ้านริมแม่น้ำโขงไปแก่งหลี่ผีอีก 2 กิโลเมตร หรือใครจะเลือกนั่งรถอีแตกก็ได้นะครับ ไป-กลับ ราคาอยู่ที่ 40 บาทครับ แต่ฝากเตือนนักเที่ยวไว้หน่อยก้แล้วกันครับ เส้นทางที่ไปน้ำตกหลี่ผี นั้นเป็นเส้นทางที่ทรหดอดทนพอสมควรครับ เพราะฉะนั้นเตรียมใจไว้เลยครับ


0 ความคิดเห็น:

คอนพะเพ็ง ไนแองการ่าแห่งเอเชีย



สบายดีครับ พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนๆนักท่องเที่ยวทุกท่าน สำหรับวันนี้การเดินทางเที่ยวลาว  ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่าเป็นการท่องเที่ยวในแบบผจญภัยครับ สถานที่ท่องเที่ยวที่เรานำเสนอเพื่อนในวันนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าสุดยอดอีกหนึ่งที่ครับ

การเดินทางของเราในครั้งนี้เดินทางไปทางลาวใต้ครับ ปลายทางของเราอยู่ที่ “น้ำตกคอนพะเพ็ง” ที่ได้รับสมยานามว่า ไนแองการ่าแห่งเอเชียนั่นเองครับ ให้สมยานามกันซะขนาดนี้  ถ้าไม่ไปเห็นจะไม่ได้แล้วครับ  เที่ยวลาววันนี้จึงขอเสนอน้ำตกคอนพะเพ็งให้กับนักเดินทางทุกท่านครับ

คอนพะเพ็ง หากแปลเป็นไทยแบบเท่ๆ ก็คือ “แก่งจันทร์เพ็ญ” ที่ฟังแล้วช่างโรแมนติกเสียนี่กระไร

น้ำตกคอนพะเพ็ง (Khone Phapheng Falls) หรือที่ใครหลายคนเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า   ตาดคอน เป็น น้ำตกลาวใต้  ที่ใหญ่ที่สุด ในเขต แม่น้ำโขง ตอนใต้แห่งนี้ครับ และได้รับการขนานนามว่า ไนแองการ่าแห่งเอเชีย ครับ เหตุผลที่กลายมาเป็นไนแองการ่านั่นก็เพราะว่า ด้วยกระแสน้ำที่ยิ่งใหญ่และมีพลังรุนแรง น่ากลัว จากแรงดันของน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลบ่าถาโถมกระหน่ำลงมาจากชั้นหินราวกับจะถล่มทลายแก่งหินอย่างดุดันและเกรี้ยวกราด สร้างความตื่นตาที่น่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว สมกับคำร่ำลือและยกย่องให้เป็น ไนแองการ่า แห่งเอเชียนั่นเองครับ



ว้า...อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงหมดโรแมนติกแล้วใช่ไหมครับ ต่อเลยครับ...

น้ำตกแห่งนี้ยากที่มนุษย์จะข้ามไปได้ครับ ด้วยกำแพงที่ธรรมชาติที่สรรสร้างขึ้น ก่อนจะเข้าชมน้ำตกเราก็ได้ยินเสียงน้ำตกมาแต่ไกลเลยครับ น้ำตกคอนพะเพ็งแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สวยงามและยิ่งใหญ่ ซึ่งการชมน้ำตกที่สวยงามนั้น จะต้องชมที่ศาลาจุดชมวิวที่ทางอุทยานได้สร้างขึ้นเท่านั้นครับ
ขอบอกไว้ก่อนครับว่า.....น้ำบริเวณนั้นไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำครับ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง และมีโขดหินแหลม ภายในบริเวณน้ำตกคอนพะเพ็ง และภายในบริเวณอุทยานยังมีร้านอาหารไว้บริการมากมาย

สายน้ำที่ก่อกำเนิดเกิดตามจนกลายเป็นน้ำตกคอนพะเพ็งนั้น บ้างก็ว่าสวย บ้างก็ว่าไม่สวย ซึ่งบางครั้งก็ต้องขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะเวลาที่ไปด้วย กูรูท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าช่วงเวลาอันงดงามเพริศแพร้วของคอนพะเพ็งนั้นคือ ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม นั่นเองครับ เพราะช่วงนั้นน้ำขาวฟูฟ่อง ปริมาณน้ำกำลังพอเหมาะ ฟ้าใสปลอดโปร่ง ส่วนหากว่าถ้าไปช่วงหน้าฝนสายน้ำแห่งคอนพะเพ็งจะแดงเถือก ปริมาณน้ำมาก ท้องฟ้าหม่นมัว แถมมีฝนตกอยู่บ่อยครั้ง ไม่น่าไปครับ

หลายคน หลังชมคอนพะเพ็งแล้ว แสนจะประทับใจ พร้อมกับบอกว่านี่คือความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เปี่ยมไปด้วยความงามของสายน้ำขาวฟูฟ่องและแก่งหินมากรูปทรงให้จินตนาการ นี่คือหนึ่งในความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ของธรรมชาติที่มอบให้กับมวลมนุษยชาติครับ ส่วนใครที่มองคอนพะเพ็งว่าไม่สวยงามก็ไม่ควรจะทำร้ายทำลาย ดังเช่น กรณีของฝรั่งเศสที่ปกครองลาวในยุคล่าอาณานิคมนั่นเองครับ  ผู้ปกครองตาน้ำข้าวเหล่านั้นนอกจากจะมองไม่เห็นความงามแล้ว พวกเขายังมองคอนพะเพ็งว่าเป็นอุปสรรคต่อการขนถ่ายทรัพยากรออกจากลาวอีกด้วย




เพราะคอนพะเพ็งมีชัยภูมิและลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็น จุดสกัดที่ทำให้การเดินเรือในแม่น้ำโขงขาดช่วง ไม่ต่อเนื่องนั่นเองครับ
    
       “...เมื่อคอนพะเพ็งเป็นอุปสรรค ก็ให้ระเบิดมันทิ้งซะเลย...” นั่นคือความคิดของผู้นำฝรั่งเศสที่ปกครองลาวในสมัยนั้น
    
       ทว่าระเบิดที่วางในกาลครั้งนั้นกลับไม่ทำงานครับ ทำให้ฝรั่งเศสปฏิบัติภารกิจระเบิดคอนพะเพ็งไม่สำเร็จ ส่งผลให้การขนส่งทางเรือไม่สามารถทำได้ ฝรั่งเศสจึงหันไปสร้างทางรถไฟสายสั้นๆ ขึ้นบนดอนคอนแทนซึ่งวันนี้ทางรถไฟสายนั้นก็ยังคงอยู่ แต่ว่าเก่าคร่ำมากใช้การไม่ได้แล้วครับ ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมระเบิดไม่ทำงานนั้น จนถึงวันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้ครับว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวลาวเชื่อว่าเกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคอนพะเพ็ง  ซึ่งไม่ใช่แค่ระเบิดไม่ทำงานเท่านั้นนะครับ แต่ยังมีเสียงร่ำลือกันว่าที่แก่งคอนพะเพ็งมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เครื่องบินตกได้อีกด้วย เพราะเคยมีเครื่องบินไปตกในบริเวณนั้นครับ



เรื่องนี้จะจริงเท็จยังไง แต่วันนี้คอนพะเพ็ง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งจำปาสัก ที่แต่ละวันมีคนแวะเวียนมาเที่ยวไม่ได้ขาดสาย กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวลาวที่น่าอัศจรรย์อีกหนึ่งแห่งที่พลาดไม่ได้ครับ

น้ำตกคอนพะเพ็ง หรือไนแองการ่าเอเชีย สามารถไปจากเมืองไทยได้โดย ข้ามชายแดนไปสปป.ลาว ที่จ.อุบลฯ ด่านช่องเม็ก-วังเต่า จากนั้นเดินทางสู่เมืองปากเซประมาณ 50 กม. และจากปากเซไปอีกประมาณ 100 กม. ถนนหนทางลาดยางเรียบร้อย สะดวกต่อการเดินทางครับ



ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก oknation.net และ oceansmile.com ครับ

0 ความคิดเห็น:

Hotels2thailand.com

Like us on Facebook